วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! “ใครโดนคุณไสย” ให้ท่อง 3 ประโยคสั้นๆนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี ได้กล่าวไว้ พร้อมความหมาย



“คุณไสยแพ้ สามประโยคสั้นๆ”

สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ด้วยตัวอาตมาเอง
ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี
โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ
ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร
ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูตผีวิญญาณ ตลอดจนชาวบ้าน
ที่มีเวทมนต์คาถา และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น
อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง

ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนตร์คาถาอาคมใดเลย นอกจากคำว่า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง


อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใดก็จะกล่าวเพียงคำนี้
ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม
ในดงพญาไฟขณะนั้น ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย
อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้
เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น
อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี

และ ณ ที่แห่งนั้น อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์

มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว
ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล นายผล

ได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาอาคมเล่าเรียน
จนมีญาณแก่กล้า และมักจะทดสอบเวทมนตร์คาถาอาคม
แก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ บริเวณนี้เป็นประจำ

เขาเล่าให้อาตมาฟังว่าเขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย
เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น จะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถ
ที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วัน เต็มๆ

ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ
ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา

แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย

วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา

อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทมนตร์คาถา
หรือคุณไสยใด นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก
ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา
จึงกลับมายังเขา ซึ่งเป็นผู้กระทำ

ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า
อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมา
จึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนตร์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้ อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า

เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลยอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ

นายผล เมื่อได้ฟังดังนั้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์
ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้
ก่อนที่ท่านจะจำวัดจงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่
ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนตร์ของท่านเช่นนี้

จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนตร์คาถา
ในภูตผีปิศาจ ของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่า
จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด

เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์
นายผลจึงได้ลากลับไป

ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนตร์
ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ เมื่ออาตมานอนหลับไป
อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง
กุกกัก กุกกัก ดังขึ้นมา จึงได้จุดเที่ยนและพบตะขาบใหญ่
ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัว
ของอาตมามาก
อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี
และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนต์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ


ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้
เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป
จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ

ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้า
ได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักพำนักอยู่
อาตมาบอกว่าอาตมาได้ตื่นมาและตกใจ

จึงได้สวดมนต์ภาวนา ตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป

นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า

บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า อำนาจเวทมนตร์คาถา และคุณไสยใดๆ
ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้
ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนตร์ภาวนาของท่าน
เป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ได้

ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน
เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ว่า


เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนตร์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้
เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้
ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย
ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน


ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อุบาสิกา ในที่นั้น เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้ว
ต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า อานิสงส์ของการสวดมนตร์มีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก

“ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”

เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี
ดังปรากฏในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี
จางวางมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโต
มาเทศน์ที่บ้านครั้นพลบค่ำ

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตพร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆัง
มายังบ้านของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี

ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก
ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ
ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยา

เจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์

“ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่ายังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า
การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง
ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย


เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร
พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร
และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไร
การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณา
จนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ


ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผล

จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ

• เมื่อฟังธรรม
• เมื่อแสดงธรรม
• เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์
• เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
• เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ


การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา
ตั้งแต่สมัยพุทธกาล

พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย
ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา

นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม

ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม

การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไป
เพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน

การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ

• กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
• ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
• วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาด
หากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็น
การสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียวอาตมาภาพ
ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า

ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว
บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน


การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดับพอสมควร
ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอก
ไม่ให้เข้ามารบกวนจิต
ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ
ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด


*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย
ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย


ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง
เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก
ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย

เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น
ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้
ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์

ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย
ได้อย่างดีเยี่ยม

ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้











ปาฏิหาริย์แห่งบุญใหญ่ พลิกชีวิตผู้ให้และผู้รับ 
การสร้างบุญด้วยธรรมทาน หนังสือสวดมนต์ 
เป็นบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ที่เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 
และเจ้ากรรมนายเวร ตลอดถึงมนุษย์คือผู้รับ 
ล้วนพอใจในธรรมที่ยกระดับจิตวิญญานได้บุญใหญ่
สามปราการที่จะพลิกชีวิตผู้ให้และผู้รับได้

- ประการแรก " ผู้ให้ " ธรรมทานนี้ เป็นผู้ได้บุญมาก เพราะหนังสือสวดมนต์เป็นหนังสือที่มีความรู้ ก่อประโยชน์ได้ ถือเป็นวัตถุทานที่เกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ไม่มีโทษ และอยู่ได้นานกว่าวัตถุทานแบบอื่น ที่กินใช้ไม่หมด

 - ประการที่สอง ธรรมทานหนังสือสวดมนต์ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางจิตโดยตรงทั้งของผู้ให้ และผู้รับ ทำให้ได้ความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง เพราะเมื่อได้อ่าน เกิดความรู้และเข้าใจหลักธรรมแล้ว จิตได้ตื่นรู้แล้ว ทำให้บาปหรืออกุศลธรรมครอบงำจิตใจได้ยาก อีกทั้งยังเป็นหนทางสู่ปัญญา หรือความรู้แจ้งในการแก้ไขกรรม แก้ไขปัญญหาชีวิต

 - ประการที่สาม ธรรมทานที่เราให้นี้ ถือว่าเป็นอภัยทานได้ หากเราวางใจ ด้วยการให้ธรรมทานนี้เป็นการกาให้อภัยทาน เพื่อ "ให้อโหสิกรรม" และ " ขออโหสิกรรม " ไปพร้อมๆ กัน


 เป็นการสร้างบุญที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการมากที่สุดบุญหนึ่ง โดยเฉพาะ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาน เพราะทุกครั้งที่เราอุทิศอานิสงส์แห่งการสร้างบุญด้วยธรรมทานนี้ไปถึงเขา ที่ในเวลานี้ เขาเหลือเพียงดวงจิต ไม่มีร่างกาย บุญนี้จะนำเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี

 และบุญกุศลนี้ จะนำมาซึ่งการให้อโหสิกรรมได้โดยง่าย เร็วที่สุด อันเป็นหนทางหนึ่งที่ระงับเวรได้ แต่กรรมที่เรายังต้องรับ แต่ในบางกรรมจะเยายางลงจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย ด้วยบุญที่เราทำนั้นเกิดผลที่แรงกว่า

 คนที่ปรารถนาจะมีชีวิตรุ่งเรือง
มีทรัพย์ที่มาจากกรรมดีของตนเร็วขึ้น
มีสติ มีปัญญา ในการแก้ไข ปิดอุปสรรคทั้งปวง
และพัฒนาตนเองไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน
ควรหมั่นทำ "ธรรมทาน" อย่างต่อเนื่อง
เพราะบุญที่ทำนี้
และบุญส่วนอื่นที่เราเพียรทำโดยไม่ย่อท้อ
จะรวมเป็นมหากุศลพลิกชีวิตได้จริง







 ธรรมทาน
" บุญใหญ่ อานิสงส์สูง "
แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
"หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี"

บุญประณีตสุขใจผู้ให้ บุญสวยถูกใจผู้รับ
ตลอดทั้งเทพเทวา-เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
กระดาษดีมาก เคลือบลามิเนทด้าน
กันแสงสะท้อน กันน้ำ ไม่คมบาดมือ
บทสวดมนต์ สมบูรณ์ ครบถ้วน ถูกต้อง
ถูกใจผู้ให้ ประทับใจผู้รับ

**ไม่มีพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ เพราะ..เพิ่มบทสวดขอถอดถอนคำสาบาน และบทแผ่เมตตาครอบจักรวาล ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ได้และอานิสงส์สูงกว่านำเนื้อที่กระดาษมาพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ 







https://line.me/R/ti/p/%40nammon


ขอเชิญร่วมสร้างบุญใหญ่
ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์
หนังสือสร้างบุญ-สร้างสุข-สร้างความดี

พลิกชีวิตทั้งผู้ให้และผู้รับ
ตลอดทั้งเจ้ากรรมนายเวร ต่างให้อโหสิกรรม
สร้างบุญใหญ่อานิสงส์สูงบุญประณีต ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี
ให้ปัญญา ให้ความรู้ ให้ความสุขสงบพบทางธรรม
บุญที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต พลิกโชคชะตาจากร้ายให้ดี
เป็นบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ที่เจ้ากรรมนายเวรพอใจที่สุด
ทำให้การขออโหสิกรรมได้ผล
ยอมถอนตัวจากอุปสรรคกรรมร้ายทั้งปวง
ผู้ใดก็ตาม..หมั่นสร้างธรรมทานเป็นประจำ
ชีวิตจะพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างอัศจรรย์ !!!







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น