วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

ตำนานที่กล่าวขานกันไม่รู้จบ!! เมื่อ “หลวงปู่มั่น” เผชิญหน้ากับ “อสูรร้าย” ในถ้ำสาริกา … ผลสุดท้าย อธรรมเป็นฝ่ายศิโรราบ!!



ตำนานที่กล่าวขานกันไม่รู้จบ!! เมื่อ “หลวงปู่มั่น” เผชิญหน้ากับ “อสูรร้าย” ในถ้ำสาริกา … ผลสุดท้าย อธรรมเป็นฝ่ายศิโรราบ!!

“หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” เคยเล่าไว้ว่า ช่วงเวลาสามปีที่พักอยู่ในถ้ำสาริกานั้น ท่านได้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย จนเป็นที่สะดุดและฝังใจตลอดมา

เหตุการณ์หนึ่งในนั้นก็คือ เมื่อหลวงปู่มั่นเดินทางไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับถ้ำ ท่านได้วานให้ชาวบ้านไปส่งที่ถ้ำสาริกาเพราะไม่เคยไปและไม่รู้ทาง ชาวบ้านจึงเล่าเรื่องอาถรรพ์ต่างๆ ของถ้ำแห่งนั้นให้ท่านฟังว่า …

“ถ้าพระไม่ดีจริงๆ ไปอยู่ไม่ได้ ต้องเจ็บป่วยสารพัดและตายกันแทบไม่มีเหลือรอดลงมา เพราะถ้ำแห่งนี้มี ‘ผีหลวง’ รูปร่างใหญ่และมีฤทธิ์มาก คอยรักษาอยู่ ผีตัวนี้ดุร้ายมาก ไม่เลือกพระเลือกเจ้า ถ้าใครเข้าไปอยู่ถ้ำนั้นจะต้องมีอันเป็นไปอย่างคาดไม่ถึง ยิ่งพระรูปใดที่อวดอ้างตัวเองว่าเก่ง มีวิชาอาคมขลัง และไม่กลัวผีแล้ว ผีตัวนั้นจะยิ่งชอบทดสอบ แล้วพระรูปนั้นก็ต้องเจ็บป่วยขึ้นมาอย่างกะทันหันและตายเร็วกว่าปกติที่ควร จะเป็น”

เมื่อเล่าจบแล้ว ชาวบ้านก็พร้อมใจกันนิมนต์วิงวอน…ไม่อยากให้หลวงปู่มั่นขึ้นไปอยู่ในถ้ำ เพราะกลัวว่าท่านจะตายเหมือนพระรูปอื่นๆ

หลังจากฟังชาวบ้านพูดจบแล้ว หลวงปู่มั่นก็บอกว่าท่านไม่กลัว และขอให้ชาวบ้านพาท่านขึ้นไปส่งที่ถ้ำ …

จนกระทั่งในคืนหนึ่ง หลังจากที่หลวงปู่มั่นจิตสงบเป็นสมาธิและสว่างออกไปนอกกายก็ปรากฏร่างดำใหญ่ ของบุรุษผู้หนึ่ง สูงราวๆ สิบเมตร ถือตะบองเหล็กใหญ่เท่าขา ยาวประมาณสองวา เดินเข้ามาหาและบอกกับท่านว่า

“จะทุบตีให้จมลงไปในดิน … ถ้าไม่หนีจะฆ่าให้ตาย!!” (ตะบองเหล็กนั้นตีช้างตัวใหญ่แค่ทีเดียว ช้างตัวนั้นจะต้องจมลงไปในดินแบบมิดเลยโดยไม่ต้องตีซ้ำอีก)

หลวงปู่มั่นกำหนดจิตถามผีร่างยักษ์นั้นว่า

“จะมาตีและฆ่าอาตมาทำไม? อาตมามีความผิดอะไรถึงจะต้องถูกตีถูกฆ่า? การมาอยู่ที่นี่มิได้มากดขี่ข่มเหงหรือเบียดเบียนใครให้เดือดร้อน!!”

ผีร่างยักษ์บอกว่า เขาเป็นผู้มีอำนาจรักษาภูเขาลูกนี้อยู่นานแล้ว ไม่ยอมให้ใครมามีอำนาจเหนือตนเองไปได้ จะต้องกำจัดทันที

หลวงปู่มั่นจึงถามผีร่างยักษ์ตนนั้นว่า

“ถ้าท่านเป็นผู้มีอำนาจและเก่งจริงอย่างที่อวดอ้างแล้ว ท่านมีอำนาจเหนือกรรมและเหนือธรรมอันเป็นกฎใหญ่ปกครองมวลสัตว์ในสามโลกด้วย หรือเปล่า?”

ผีร่างยักษ์ตอบว่า “เปล่า”

หลวงปู่มั่นพูดต่ออีกว่า

“พระพุทธเจ้าท่านสามารถปราบกิเลสที่คอยอวดอำนาจว่าตัวเอง ดี-ตัวเองเก่งอยู่ภายใน ส่วนท่านที่ว่าตัวเองเก่งนั้น…ได้คิดปราบกิเลสตัวนั้นให้หมดสิ้นไปบ้าง หรือยัง?”

ผีตอบว่า “ยังเลยท่าน”

หลวงปู่มั่นพูดอีกว่า

“ท่านว่าท่านเป็นผู้มีอำนาจอันใหญ่หลวงปกครองอยู่ในเขตเขา เหล่านี้ แต่อำนาจนั้นมีฤทธิ์เดชเหนือกรรมและเหนือธรรมไปได้ไหม? … ถ้าท่านมีอำนาจและมีฤทธิ์เหนือธรรมแล้ว ท่านก็ทุบตีหรือฆ่าอาตมาได้

สำหรับอาตมาเองไม่กลัวความตาย แม้ท่านไม่ฆ่า อาตมาก็ยังจะต้องตายอยู่ดีเมื่อกาลของมันมาถึง เพราะโลกนี้เป็นที่อยู่ของมวลสัตว์ผู้เกิดมาแล้วต้องตายทั่วหน้ากัน แม้ตัวท่านเองที่กำลังอวดตัวว่าเก่งในอำนาจจนกลายเป็นผู้มืดบอดอยู่ขณะนี้ ท่านก็มิได้เก่งกว่าความตายและกฎแห่งกรรมที่ครอบงำสัตว์โลกไปได้”

ระหว่างที่หลวงปู่มั่นกำลังเทศน์สั่งสอนผีร่างยักษ์ผ่านทางสมาธิอยู่นั้น ปรากฏว่า ผีตนนั้นยืนตัวแข็งเหมือนตุ๊กตา ไม่กระดุกกระดิก ไม่ขยับเขยื้อนไปมาเลย ถ้าเป็นคนธรรมดาก็ทั้งกลัวทั้งอับอายจนตัวแข็งแทบลืมหายใจ แต่นี่เป็นอมนุษย์ก็เลยไม่รู้ว่าเขามีลมหายใจหรือไม่ แต่อาการทั้งหมดนั้นก็แสดงให้เห็นชัดว่า ผีตนนั้นทั้งกลัวทั้งอับอายหลวงปู่มั่นจนสุดที่จะอดกลั้นได้ แต่ก็สามารถอดกลั้นได้อย่างน่าชม












ปาฏิหาริย์แห่งบุญใหญ่ พลิกชีวิตผู้ให้และผู้รับ 
การสร้างบุญด้วยธรรมทาน หนังสือสวดมนต์ 
เป็นบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ที่เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 
และเจ้ากรรมนายเวร ตลอดถึงมนุษย์คือผู้รับ 
ล้วนพอใจในธรรมที่ยกระดับจิตวิญญานได้บุญใหญ่
สามปราการที่จะพลิกชีวิตผู้ให้และผู้รับได้

- ประการแรก " ผู้ให้ " ธรรมทานนี้ เป็นผู้ได้บุญมาก เพราะหนังสือสวดมนต์เป็นหนังสือที่มีความรู้ ก่อประโยชน์ได้ ถือเป็นวัตถุทานที่เกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ไม่มีโทษ และอยู่ได้นานกว่าวัตถุทานแบบอื่น ที่กินใช้ไม่หมด

 - ประการที่สอง ธรรมทานหนังสือสวดมนต์ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางจิตโดยตรงทั้งของผู้ให้ และผู้รับ ทำให้ได้ความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง เพราะเมื่อได้อ่าน เกิดความรู้และเข้าใจหลักธรรมแล้ว จิตได้ตื่นรู้แล้ว ทำให้บาปหรืออกุศลธรรมครอบงำจิตใจได้ยาก อีกทั้งยังเป็นหนทางสู่ปัญญา หรือความรู้แจ้งในการแก้ไขกรรม แก้ไขปัญญหาชีวิต

 - ประการที่สาม ธรรมทานที่เราให้นี้ ถือว่าเป็นอภัยทานได้ หากเราวางใจ ด้วยการให้ธรรมทานนี้เป็นการกาให้อภัยทาน เพื่อ "ให้อโหสิกรรม" และ " ขออโหสิกรรม " ไปพร้อมๆ กัน


 เป็นการสร้างบุญที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการมากที่สุดบุญหนึ่ง โดยเฉพาะ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาน เพราะทุกครั้งที่เราอุทิศอานิสงส์แห่งการสร้างบุญด้วยธรรมทานนี้ไปถึงเขา ที่ในเวลานี้ เขาเหลือเพียงดวงจิต ไม่มีร่างกาย บุญนี้จะนำเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี

 และบุญกุศลนี้ จะนำมาซึ่งการให้อโหสิกรรมได้โดยง่าย เร็วที่สุด อันเป็นหนทางหนึ่งที่ระงับเวรได้ แต่กรรมที่เรายังต้องรับ แต่ในบางกรรมจะเยายางลงจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย ด้วยบุญที่เราทำนั้นเกิดผลที่แรงกว่า

 คนที่ปรารถนาจะมีชีวิตรุ่งเรือง
มีทรัพย์ที่มาจากกรรมดีของตนเร็วขึ้น
มีสติ มีปัญญา ในการแก้ไข ปิดอุปสรรคทั้งปวง
และพัฒนาตนเองไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน
ควรหมั่นทำ "ธรรมทาน" อย่างต่อเนื่อง
เพราะบุญที่ทำนี้
และบุญส่วนอื่นที่เราเพียรทำโดยไม่ย่อท้อ
จะรวมเป็นมหากุศลพลิกชีวิตได้จริง







 ธรรมทาน
" บุญใหญ่ อานิสงส์สูง "
แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
"หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี"

บุญประณีตสุขใจผู้ให้ บุญสวยถูกใจผู้รับ
ตลอดทั้งเทพเทวา-เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
กระดาษดีมาก เคลือบลามิเนทด้าน
กันแสงสะท้อน กันน้ำ ไม่คมบาดมือ
บทสวดมนต์ สมบูรณ์ ครบถ้วน ถูกต้อง
ถูกใจผู้ให้ ประทับใจผู้รับ

**ไม่มีพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ เพราะ..เพิ่มบทสวดขอถอดถอนคำสาบาน และบทแผ่เมตตาครอบจักรวาล ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ได้และอานิสงส์สูงกว่านำเนื้อที่กระดาษมาพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ 







https://line.me/R/ti/p/%40nammon


ขอเชิญร่วมสร้างบุญใหญ่
ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์
หนังสือสร้างบุญ-สร้างสุข-สร้างความดี

พลิกชีวิตทั้งผู้ให้และผู้รับ
ตลอดทั้งเจ้ากรรมนายเวร ต่างให้อโหสิกรรม
สร้างบุญใหญ่อานิสงส์สูงบุญประณีต ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี
ให้ปัญญา ให้ความรู้ ให้ความสุขสงบพบทางธรรม
บุญที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต พลิกโชคชะตาจากร้ายให้ดี
เป็นบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ที่เจ้ากรรมนายเวรพอใจที่สุด
ทำให้การขออโหสิกรรมได้ผล
ยอมถอนตัวจากอุปสรรคกรรมร้ายทั้งปวง
ผู้ใดก็ตาม..หมั่นสร้างธรรมทานเป็นประจำ
ชีวิตจะพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างอัศจรรย์ !!!







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น