วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทำบุญเพียงน้อยนิด กลับได้อานิสงส์มาก! "ครูบาวงศ์" เมตตาสอน"วิธีทำบุญ" แม้เพียงสองสลึง แผ่นดินยังถึงกับสะทือน!


ทำบุญเพียงน้อยนิด กลับได้อานิสงส์มาก! "ครูบาวงศ์" เมตตาสอน"วิธีทำบุญ" แม้เพียงสองสลึง แผ่นดินยังถึงกับสะทือน!

เรื่องที่จะเล่านี้เป็นเมตตาธรรมจากครูบาวงศ์ หรือครูบาชัยยะวงศา พระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งของแผ่นดินธรรม ครูบาวงศ์ หรือท่านเป็นศิษย์ของครูบาเจ้าศรีวิชัยตนบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน

ครูบาวงศ์ท่านมีเมตตามากโดยเฉพาะคนไทยและคนกระเหรี่ยงภาคเหนือตอนบนรู้จักท่านดี เรื่องที่ขอเมตตามาเล่าให้กำลังใจกันในวันนี้ชื่อเรื่องว่า

"ทำบุญ สอง สลึง ทำให้แผ่นดินไหว "
ในอดีตกาล ล่วงมาแล้ว สมัยองค์พระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรงพระชนย์อยู่ มีพระยาเจ้าเมือง เมืองหนึ่ง มีใจศรัทธาปรารถนาจะถวายผ้ากฐินเป็นทาน จึงได้ ป่าวประกาศไปทั่ว บ้านเมืองเพื่อเชิญชวนให้ชาวเมืองได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้

ข่าวทราบถึง มหาเศรษฐี สองคนผัวเมีย มีเงินทองอยู่ ๘๘ โกฏิ เขาทั้งสองเกิดความศรัทธาปิติยินดี ในกองบุญกฐินนั้น จึงตั้งใจที่จะร่วมถวายทาน ผ้ากฐิน ตกกลางคืนมา สองผัวเมียก็มาคิดว่า ตัวเรานี้ มีข้าวของมากมาย แต่ไม่มีอันใดเลย ที่หามาด้วย น้ำพักน้ำแรงของตน มีแต่ใช้คนอื่นหามา มัน จะ เกิด อานิสงส์แก่เรามากไหมหนอ เมื่อคิดอย่างนั้น ผู้เป็นผัวจึง ชวน เมีย ว่า พรุ่งนี้เช้า เราพากันไป เกี่ยว หญ้ามาขาย เอาเงินที่ได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง เรา ไป ทำบุญ มันจักได้บุญมาก ผู้เป็นเมียจึงตอบตกลง พอรุ่งเช้า ก็พากันถือเคียวเที่ยวเกี่ยวหญ้า กลางแดดร้อน ได้ หญ้า มาสามมัด จึงเอามาสาง เอามาล้าง เเล้ว มอบให้คนใช้นำไปขายให้คนเลี้ยงมา ได้เงินมา สามสลึง จึงมอบ ให้คนใช้ สลึงหนึ่ง ผัวเอา สลึงหนึ่ง เมียได้ สลึงหนึ่ง สองคนผัวเมีย ได้เงิน สอง สลึง แล้ว จึงพากันนำเงินนั้นมาชำระล้าง ด้วยน้ำอบน้ำหอม ตั้งจิตอธิษฐานยกเงินขึ้นเหนือหัว แล้วตั้งสัจจะอธิษฐาน ด้วยความปิติยินดี แล้วคิดว่า นี่เเหละ! คือเงินที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา เราจะได้บุญมาก!



จากนั้น สอง คน ผัวเมีย มหาเศรษฐี จึงเดินทางไปที่บ้านของพระยาเจ้าเมือง พอไปถึงก็เดินเข้าไปในบ้าน ไปหยุดตรงที่เขาตั้งขัน รับบริจาคทานบุญกฐินไว้ เขาจึงพากัน หย่อนเงินลง "แก๊ก แก๊ก " แล้วก็เดิน ออกไป พอ พระยาเจ้าเมืองเห็นจึงเดินมาดูในขัน เห็น เงิน อยู่สองสลึง จึงเกิดโทสะโกรธขึ้น เป็นฟืนเป็นไฟ "ว่า ไอ้อี สองคนนี้ มัน เป็น ถึง มหาเศรษฐี มีข้าวของ ๘๘ โกฏิ มาตระหนี่ ดูถูกดูแคลนกู กูตั้งกองบุญกฐิน เอา เงิน มา ร่วม นิดเดียว จึง หยิบ เงิน คว้างทิ้งลงพื้น กระเด็นไปตกข้างกำแพง

พอถึงเวลา พระยาเจ้าเมือง และบริวารชาวบ้านชาวเมืองจึงพากัน แห่ผ้ากฐินเข้าไปสู่อาราม เพื่อ จะ ถวาย พระพุทธเจ้า ครานั้นแผ่นดินไหวสนั่นไปทั่ว บังเกิดต้น กัลปพฤกษ์ งอกขึ้น ตรง ที่ เงิน สอง สลึง ตก อยู่ พระยาเจ้าเมืองดีใจ ว่า กูนี้ เป็นผู้มีบุญมาก ทำบุญกฐินแผ่นดินพอไหว ต้นไม้ กัลปพฤกษ์พองอก จึงวิ่งเข้าไปหมายจักหยิบเงินทองข้าวของที่ห้อยอยู่บนกิ่งกัลปพฤกษ์ แต่เข้าไม้ถึงเกิดร้อนขึ้น นัยตาแทบแตกใครก็เข้าไม่ถึงมีแต่สองคนผัวเมียมหาเศรษฐี เท่านั้นที่เข้าไปได้ และนำต้นกัลปพฤกษ์ มาวางบนฝ่ามือได้พอดี


เมื่อนั้น องค์พระพุทธเจ้า จึงได้ตรัสว่า "เหตุที่แผ่นดินไหว และ ต้นกัลปพฤกษ์ งอกขึ้นนั้น มิใช่ เพราะนาบุญ ของท่านพระยาเจ้าเมือง เป็นเพราะ อานิสงส์ของสองคนผัวเมียมหาเศรษฐี นั่นแหละ"

คนเราอย่าได้นับประมาท ลาสา ดูถูกดูแคลน คนที่เขาทำบุญน้อยนิด เพราะเขาอาจจะแลกด้วยชีวิตถึงจะได้ เงินนั้นมาทำบุญ เขาอาจจะได้อานิสงส์มากว่าเรา ที่มีเงินแสนเงินล้าน อีกก็ได้

"บุญมิได้วัด กันที่ ค่า ของ ทรัพย์สินเงินทอง แต่ มัน อยู่ ที่กำลังใจ นั่นแหละ"
( บางที ชาวไร่ชาวที่ยากจน นำเงินน้อยนิดที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนมา ทำบุญ อาจจะ ได้ อานิสงส์ มากกว่าคนรวยๆ ที่ได้เงินมาง่ายๆ เสียอีกเน้อ! )

ที่มา : สำนักข่าวทีนิวส์










ปาฏิหาริย์แห่งบุญใหญ่ พลิกชีวิตผู้ให้และผู้รับ 
การสร้างบุญด้วยธรรมทาน หนังสือสวดมนต์ 
เป็นบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ที่เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 
และเจ้ากรรมนายเวร ตลอดถึงมนุษย์คือผู้รับ 
ล้วนพอใจในธรรมที่ยกระดับจิตวิญญานได้บุญใหญ่
สามปราการที่จะพลิกชีวิตผู้ให้และผู้รับได้

- ประการแรก " ผู้ให้ " ธรรมทานนี้ เป็นผู้ได้บุญมาก เพราะหนังสือสวดมนต์เป็นหนังสือที่มีความรู้ ก่อประโยชน์ได้ ถือเป็นวัตถุทานที่เกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ไม่มีโทษ และอยู่ได้นานกว่าวัตถุทานแบบอื่น ที่กินใช้ไม่หมด

 - ประการที่สอง ธรรมทานหนังสือสวดมนต์ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางจิตโดยตรงทั้งของผู้ให้ และผู้รับ ทำให้ได้ความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง เพราะเมื่อได้อ่าน เกิดความรู้และเข้าใจหลักธรรมแล้ว จิตได้ตื่นรู้แล้ว ทำให้บาปหรืออกุศลธรรมครอบงำจิตใจได้ยาก อีกทั้งยังเป็นหนทางสู่ปัญญา หรือความรู้แจ้งในการแก้ไขกรรม แก้ไขปัญญหาชีวิต

 - ประการที่สาม ธรรมทานที่เราให้นี้ ถือว่าเป็นอภัยทานได้ หากเราวางใจ ด้วยการให้ธรรมทานนี้เป็นการกาให้อภัยทาน เพื่อ "ให้อโหสิกรรม" และ " ขออโหสิกรรม " ไปพร้อมๆ กัน


 เป็นการสร้างบุญที่เจ้ากรรมนายเวรต้องการมากที่สุดบุญหนึ่ง โดยเฉพาะ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นดวงจิตวิญญาน เพราะทุกครั้งที่เราอุทิศอานิสงส์แห่งการสร้างบุญด้วยธรรมทานนี้ไปถึงเขา ที่ในเวลานี้ เขาเหลือเพียงดวงจิต ไม่มีร่างกาย บุญนี้จะนำเขาไปสู่ภพภูมิที่ดี

 และบุญกุศลนี้ จะนำมาซึ่งการให้อโหสิกรรมได้โดยง่าย เร็วที่สุด อันเป็นหนทางหนึ่งที่ระงับเวรได้ แต่กรรมที่เรายังต้องรับ แต่ในบางกรรมจะเยายางลงจนแทบทำอะไรเราไม่ได้เลย ด้วยบุญที่เราทำนั้นเกิดผลที่แรงกว่า

 คนที่ปรารถนาจะมีชีวิตรุ่งเรือง
มีทรัพย์ที่มาจากกรรมดีของตนเร็วขึ้น
มีสติ มีปัญญา ในการแก้ไข ปิดอุปสรรคทั้งปวง
และพัฒนาตนเองไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน
ควรหมั่นทำ "ธรรมทาน" อย่างต่อเนื่อง
เพราะบุญที่ทำนี้
และบุญส่วนอื่นที่เราเพียรทำโดยไม่ย่อท้อ
จะรวมเป็นมหากุศลพลิกชีวิตได้จริง







 ธรรมทาน
" บุญใหญ่ อานิสงส์สูง "
แผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
"หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี"

บุญประณีตสุขใจผู้ให้ บุญสวยถูกใจผู้รับ
ตลอดทั้งเทพเทวา-เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
กระดาษดีมาก เคลือบลามิเนทด้าน
กันแสงสะท้อน กันน้ำ ไม่คมบาดมือ
บทสวดมนต์ สมบูรณ์ ครบถ้วน ถูกต้อง
ถูกใจผู้ให้ ประทับใจผู้รับ

**ไม่มีพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ เพราะ..เพิ่มบทสวดขอถอดถอนคำสาบาน และบทแผ่เมตตาครอบจักรวาล ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้รับ ได้และอานิสงส์สูงกว่านำเนื้อที่กระดาษมาพิมพ์ชื่อเจ้าภาพ 







https://line.me/R/ti/p/%40nammon


ขอเชิญร่วมสร้างบุญใหญ่
ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์
หนังสือสร้างบุญ-สร้างสุข-สร้างความดี

พลิกชีวิตทั้งผู้ให้และผู้รับ
ตลอดทั้งเจ้ากรรมนายเวร ต่างให้อโหสิกรรม
สร้างบุญใหญ่อานิสงส์สูงบุญประณีต ธรรมทานแผ่นพับบทสวดมนต์สีสวย
หนังสือสร้างบุญ สร้างสุข สร้างความดี
ให้ปัญญา ให้ความรู้ ให้ความสุขสงบพบทางธรรม
บุญที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต พลิกโชคชะตาจากร้ายให้ดี
เป็นบุญใหญ่ อานิสงส์สูง ที่เจ้ากรรมนายเวรพอใจที่สุด
ทำให้การขออโหสิกรรมได้ผล
ยอมถอนตัวจากอุปสรรคกรรมร้ายทั้งปวง
ผู้ใดก็ตาม..หมั่นสร้างธรรมทานเป็นประจำ
ชีวิตจะพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้อย่างอัศจรรย์ !!!







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น